เป็นการตรวจด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อบันทึกรายละเอียดต่างๆ ของร่างกายขณะนอนหลับหลายๆ อย่าง วิธีการคล้ายกับการบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ แต่จะมีการติดอุปกรณ์ต่างๆ มากกว่า สำหรับสถานที่ที่ใช้ในการตรวจนั้น ถ้าเป็นการตรวจชนิดจำกัด (Limited-channel PSG) อุปกรณ์จะมีไม่มาก เฉพาะเท่าที่จำเป็น สามารถเคลื่อนย้ายเพื่อไปทำการตรวจที่บ้านผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสะดวกไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องติดอุปกรณ์มากนักเหมาะสำหรับกรณีผู้ป่วยเด็ก และสามารถนอนได้อย่างเป็นธรรมชาติเพราะนอนที่บ้านตัวเอง แต่ผลการตรวจอาจจะไม่ละเอียด หรือต่ำกว่าความเป็นจริงบ้าง เพราะไม่สามารถตรวจการทำงานของสมองได้ ตรวจได้เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการหายใจเป็นหลัก
อีกชนิดหนึ่งเป็นการตรวจการนอนหลับชนิดมาตรฐาน (Standard PSG)
ต้องทำในห้องปฏิบัติการนอนหลับ (Sleep laboratory) ซึ่งจะต้องมีการฝึกบุคลากรขึ้นมาเฉพาะ เพราะการตรวจค่อนข้างซับซ้อน และมีการติดอุปกรณ์ตามร่างกายหลายอย่าง สามารถบอกได้ว่า คุณภาพในการนอนของคืนนั้นๆ เป็นอย่างไร หลับได้ดีหรือสนิทเพียงไร มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในขณะนอนหลับ การบันทึกด้วย PSG นั้น อาจจะให้ผู้ป่วยมารับการตรวจในห้องปฏิบัติการตรวจการนอนหลับเป็นเวลา 2 คืน เพราะลักษณะของการนอนหลับในคืนแรก ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ทำให้นอนหลับได้ยาก หลับไม่ต่อเนื่อง พลิกตัวบ่อย ประสิทธิภาพของการนอนหลับลดลง อาจมีการลดลงหรือเพิ่มขึ้นของการหลับในช่วงต่างๆ ในคืนที่ 2 ผู้ป่วยจะเริ่มคุ้นเคยกับห้องปฏิบัติการและการนอนหลับจะใกล้เคียงกับการนอนหลับที่บ้านมากขึ้น ถ้าพบว่ามีการหยุดหายใจบ่อย อาจให้ลองใส่เครื่องช่วยหายใจ (CPAP) แล้วทำการปรับความดัน เพื่อให้ทราบค่าความดันที่เหมาะสมที่สุด ที่ใช้รักษาการหยุดหายใจ การที่ผู้ป่วยต้องเดินทางมาห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจการนอนหลับ บางครั้งอาจทำให้ผู้ป่วยต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก ทำให้ผู้ป่วยบางรายไม่สามารถมารับการตรวจในลักษณะนี้ได้
|