นอนกรน......มีคนเป็นเยอะไหม
จากการศึกษาในต่างประเทศ พบว่า ผู้ชายนอนกรนมากกว่าผู้หญิง
โดยพบว่าผู้ชายที่นอนกรน มีประมาณ 20-50% และมีปัญหาหยุดหายใจจาก
ทางเดินหายใจอุดตันขณะนอนหลับ ประมาณ 25% ส่วนผู้หญิงที่นอนกรน
มีประมาณ 10-20% และมีปัญหาหยุดหายใจ ประมาณ 10%
แต่ถ้าศึกษาจำเพาะลงไปในกลุ่มอายุระหว่าง 41-65 ปี จะพบว่าเพศชาย
มีอัตราการนอนกรนอยู่ที่ประมาณ 50% ในขณะที่เพศหญิงมีอัตราการ
นอนกรนประมาณ 40% จะเห็นว่าในผู้สูงอายุ จะมีผู้ที่นอนกรน
ถึงเกือบครึ่งหนึ่งทีเดียว
นอกจากนี้จากการศึกษาเปรียบเทียบโรคนอนกรนในระหว่าง
คนฝรั่งกับคนเอเชีย ในกลุ่มที่มีน้ำหนักและส่วนสูงพอ ๆ กัน พบว่า
คนเชื้อสายเอเชียมีความรุนแรงของการนอนกรน และการหยุด
หายใจ ที่มากกว่าฝรั่ง อย่างชัดเจน ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ได้รับ
การอธิบายว่า น่าจะเกิดจากลักษณะโครงสร้างของกระดูกโหนกแก้ม
แบนๆ ประกอบกับมีคางที่เล็ก ๆ และถอยไปด้านหลัง ทำให้ช่องทางเดิน
หายใจบริเวณลำคอของคนเอเชียแคบมาก เกิดการตีบแคบและอุดตัน
ได้ง่าย ขณะนอนหลับ
น่าเสียดายที่ในประเทศไทย ยังมีการสำรวจอย่างจริงจัง ว่าคนไทยมีปัญหา
เรื่องนอนกรนมากน้อยเพียงใด แต่น่าเชื่อได้ว่า คนไทยน่าจะมีปัญหาไม่น้อย
เพราะคนไทยจำนวนมาก มีคางเล็ก หรือคางสั้น เป็นโรคภูมิแพ้จำนวนมากและ
ยังมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาความอ้วนมากขึ้นเรื่อยๆ และคนไทยไม่
ค่อยออกกำลังกายเป็นประจำ โดยมีสารพัดข้ออ้าง อันได้แก่ ไม่มีเวลา ไม่มี
สถานที่เครียดกับการงาน รถติด ก้อหมดเวลาไปทั้งวันเสียแล้ว |